“จะไปโรงพยาบาล ทำไมไม่บอกพี่”
“เกี้ยวไปที่ออฟฟิศแล้วค่ะ แต่คนงานบอกว่าพี่ตั้มติดธุระ” ดวงตากลมโตก้มมองมือตัวเอง หากมองหน้าดาษดาในเวลานี้ น้ำตาเจ้ากรรมต้องไหลออกมาแน่แล้ว เขาเองไม่ใช่หรือที่ไม่อยู่ให้เธอได้บอกกล่าว
“ต่อให้มีก็ยกเลิกได้ ผัวที่ไหนจะเห็นงานสำคัญกว่าพาเมียไปหาหมอ หรือจำไม่ได้แล้วว่าพี่กับเกี้ยวเป็นอะไรกัน”
หัวใจดวงน้อยพองโตจนใหญ่กว่าปอดกับสรรพนามที่เขาแทนตัว รวมไปถึงสถานะที่ยกให้เธอ ทว่ากลับพองโตได้ครู่เดียว
“เกี้ยวจำได้ค่ะว่าเป็นภรรยาพี่ตั้ม ภรรยาในนาม” กุลปาลีเอ่ยเสียงแผ่ว หาใช่ตอบคำถาม แต่เป็นการตอกย้ำว่าตัวเองเป็นใคร ดาษดาจดทะเบียนสมรสกับเธอเพราะไม่ต้องการให้พ่อเข้ามาวุ่นวายในชีวิตก็เท่านั้น เป็นความสงสาร ไม่ได้เริ่มต้นจากความรัก หนำซ้ำเรื่องระหว่างเธอกับเขามีคนรู้เพียงไม่กี่คน
“แค่นั้น ?”
หญิงสาวกัดริมฝีปากจนรู้สึกเจ็บ เธอระลึกอยู่ตลอดเวลา ไม่เคยลืมว่าเขาเป็นผู้มีพระคุณต่อครอบครัว
“พี่ตั้มใช้หนี้ให้พ่อ ก็เท่ากับว่าเกี้ยวเป็นลูกหนี้”
“เดี๋ยวนี้เก่ง ใครสอนให้ช่างต่อปากต่อคำ หืม” ฝ่ามือกรำงานสวนงานไร่วางลงบนศีรษะหญิงสาวแล้วโยกเบาๆ เจ้าหล่อนจะรู้หรือเปล่าว่าที่เขาเป็นแบบนี้เพราะหวงเพราะหึง
ลมหายใจหนักๆ ถูกพ่นออก ร้อนในอกเพียงแค่จินตนาการว่าดอกไม้ที่ตนเฝ้าทะนุถนอม รอคอยวันเบ่งบานดอกนี้ตกไปอยู่ในมือชายอื่น
หรือถึงเวลาแล้วที่เขากับกุลปาลีต้องเป็นสามีภรรยากันจริงๆ...ไม่ใช่แค่ทางกฎหมาย