กุมารแพทย์ คุณหมอของหลาน เขาตัวสูง ผิวขาว ใส่แว่นแถมใจดี ทุกครั้งที่ได้อยู่ใกล้เขาพาให้เธอรู้สึกมั่นคง ปลอดภัย และอบอุ่นหัวใจเสมอ
“จะหนีไปไหนฮะ เด็กดื้อ”
ลำแขนแข็งแรงเหมือนคีมเหล็กที่รั้งร่างบางเข้ามาสวมกอดจากด้านหลัง จมูกโด่งโฉบลงบนแก้มใสอย่างแม่นยำ คำพูดคล้ายเอาเรื่องจริงจัง แต่น้ำเสียงชายหนุ่มกลับไม่ได้บ่งบอกถึงอารมณ์กรุ่นโกรธแฝงอยู่เลย
“งอนแล้วเกเรหนีกลับห้องก่อนได้ยังไง ไม่น่ารักเลยนะคะ ฮึ”
“ไม่น่ารักก็ไม่ต้องมารักเลย เขาไม่ได้อยากให้ตัวเองมารักสักหน่อย” ว่าไม่พอ ยังประทุษร้ายโดยการส่งกำปั้นลงบนเนื้อตัวชายหนุ่มอีกแผล แต่พอกำปั้นที่สามกำลังจะตามมาอีกก็ต้องขัดใจเพราะถูกเขารวบมือเอาไว้ก่อน ใบหน้าคมเปื้อนด้วยรอยยิ้มเอ็นดู เขาไม่ร้อนรนกับอาการตีโพยตีพายของเธอสักนิด มิหนำซ้ำยังเลิกคิ้วยิ้มๆ ตอบกลับมาอย่างใจเย็น
“แต่ก็รักไปแล้วนี่คะ” พร้อมกดริมฝีปากลงบนแก้มใสอีกฟอดบอกให้รู้ว่ารักมากแค่ไหน “หืม ทีนี้พอใจเย็นขึ้นบ้างหรือยัง”
เพราะท่าทีของเขาดูอย่างไรก็ไม่เดือดเนื้อร้อนใจตามไปด้วยเลยสักนิด แล้วอย่างนี้เธอจะโมโหไปทำไม ถ้ามันไม่ได้อะไรขึ้นมา สุดท้ายจึงพยักหน้ารับแบบบึ้งๆ เมื่อตั้งใจตีรวนไปอย่างไรก็ไม่สำเร็จ
“เด็กดี” ชมคนว่าง่าย แล้วจูบขมับให้รางวัล “ทีนี้เราหันหน้ามาคุยกัน น้อยใจอะไรคะถึงต้องหนีมาแบบนี้”
“ก็พี่หนึ่งดุฟ้าใส ดุต่อหน้าคนอื่นด้วย”
“หืม มีคนอื่นด้วยเหรอ พี่ลืมไปเลย”
“แต่คนอื่นไม่อยู่ในสายตาพี่หรอกตอนนั้น รู้อยู่อย่างเดียวว่าเป็นห่วงฟ้าใสมากกว่า” คุณหมอหนุ่มกดจมูกย้ำบนแก้มนุ่มอย่างแสนรัก
“คราวหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะคะ เราเป็นเหมือนคนคนเดียวกันแล้ว มีอะไรก็ต้องพูดกันรู้หรือเปล่า”
“ฟ้าใสขอโทษ จะไม่ดื้ออีกแล้ว” คนสำนึกผิดกระพุ่มมือไหว้แนบอกเขา รู้สึกถึงสัมผัสของฝ่ามืออุ่นที่ลูบตอบบนศีรษะเบาๆ และเธอคงจะตั้งหน้าตั้งตาเป็นเด็กดีของเขาต่อไป ถ้าไม่ใช่เสียงกลั้วหัวเราะแล้วเปรยออกมาเป็นอีกอย่าง
“อืม ดีนะคะ เมียพี่นี่เรียบร้อยจัง”
ร้อนถึงคนที่เพิ่งได้ยินสรรพนามแทนตัวเต็มปากเต็มคำจาก ‘สามี’ เป็นครั้งแรก ถึงกับแก้มแดงแจ๋ขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ ครั้นจะค้านไปว่าเธอยังไม่ได้เป็นเมียจริงๆ ก็เกรงว่างานจะเข้าตัว
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++=
“ไหนอ้าปากให้หมอดูหน่อยสิคะ แอบยัดอะไรเอาไว้ ทำไมถึงแก้มป่องจัง” เสียงทุ้มเอ่ยหลอกล่อไม่ต่างกับที่ใช้กับเด็ก ไม่รอให้คนไข้ตั้งตัวก็จับคางเชยขึ้น ความชำนาญทำให้เขารู้ว่าต้องทำอย่างไรคนป่วยตรงหน้าถึงยอมอ้าปากให้ตรวจ กดลิ้น ส่องไฟ แล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกใหญ่ เมื่อเห็นเด็กดื้อคอบวมแดงมากกว่าเมื่อวาน
“อ้าใอไอ้อ้ายแอ้มอ่องอักอ่อย (ฟ้าใสไม่ได้แก้มป่องสักหน่อย)”
“ไหนสัญญากันไว้ว่ายังไงคะ เด็กดื้อ” ภาคินัยยื่นมือดึงปรอทออก ขีดแดงที่สูงขึ้นไปถึงสามสิบแปดองศาเซลเซียส คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันตอนเอ่ยถามคนตัวเล็ก
“แอบไปกินน้ำเย็นหรือเปล่า”
คนมีความผิดติดตัวก็รีบส่ายหน้าปฏิเสธจนผมยุ่ง ยิ่งตาคมที่หรี่มองมาจับพิรุธ ถ้าเป็นไปได้ เธอก็อยากให้คุณหมอเปลี่ยนอาชีพไปเป็นตำรวจ
“เปล่าค่ะ ฟ้าใสไม่ได้ เอ่อ กินน้ำเย็นจริงๆ ”
“ฟ้าใสโตแล้วไม่ใช่เด็กๆ แล้วก็ไม่ได้ทำ ถ้าไม่มีหลักฐาน พี่หนึ่งก็ห้ามมากล่าวหาฟ้าใส แล้วก็ห้ามเอาเข็มมาจิ้มฟ้าใสด้วย”
ณัฐรดาโกหกออกไปคำโต ไม่ลืมพูดดักทางเสร็จสรรพ สองนิ้วแอบไขว้กันใต้ผ้าห่มเป็นสัญลักษณ์แก้การพูดปด ชัยชนะที่ได้ทำให้คนป่วยก้มหน้าลอบอมยิ้ม เมื่อสายตามองนิ่งราวจับผิดครู่ใหญ่ เจ้าของมันเปลี่ยนเป็นถอนหายใจยอมแพ้ แล้วหันไปหยิบยามาส่งให้ เธอยอมกินเข้าไปอย่างว่าง่าย ถือว่าหายกันกับสัญญาเด็กดีที่แปะโป้งกันไว้เมื่อวันก่อน
แต่จนแล้วจนรอด เสียงเรียบที่เปรยออกมากลับทำให้น้ำที่ดื่มตามลงไปกลืนลงคอได้อย่างยากเย็น
“ไม่เห็นไม่เป็นไร แต่ถ้าจับได้ อย่าหาว่าพี่ใจร้ายก็แล้วกัน”
ก็ถ้าจะตั้งหน้าตั้งตาขู่กันขนาดนี้ คิดว่าเธอไม่กลัวหรือยังไง!!
ราคา
369 บาท
เพิ่มลงในตะกร้า