ขอแค่รัก (One Perfect Rose /Mary Jo Putney
ขอแค่รัก ว่าด้วยเรื่องราวของท่านดยุคหนุ่มผู้สูงศักดิ์ สง่างามและทรงอำนาจ
และเต็มเปี่ยมไปด้วยความรับผิดชอบในหน้าที่ของผู้ชายที่สถานะสูงส่งเช่นเขา
แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็ได้รับการวินิจฉัยจากนายแพทย์ประจำตัวถึงอาการป่วยของเขา
ว่าเขากำลังจะตายและจะมีชีวิตเหลืออยู่อีกไม่กี่เดือน
นั่นเป็นจุดเริ่มต้นให้เขาละทิ้งภาระหน้าที่ทั้งปวงในฐานะดยุค ด้วยการหลบลี้หนีหน้า
ไปยังสถานที่ๆไม่มีใครจะรู้จักเขาเพื่อที่จะทำใจยอมรัีบกับความตายที่กำลังใกล้
เข้ามา และระหว่างการเดินทางในฐานะสุภาพบุรุษหนุ่มธรรมดาๆคนหนึ่ง
เขาก็ได้พบกับหญิงสาวแม่ม่ายผู้ตัวเธอและครอบครัวเป็นคณะละครเร่
ความเป็นมิตรอัธยาศัยอันดีของเธอและครอบครัวทำให้เขารู้สึกได้ถึงความสงบสุขทางใจ
และยินดีที่จะใช้ชีวิตที่เหลืออยู่เพลิดเพลินไปกับเธอและครอบครัว
ด้วยความอบอุ่นและมิตรภาพอันดีงามของเธอ ทำให้เขาค่อยๆค้นพบถึงความสุขแบบเรียบง่าย
เขารู้สึกมีชีวิตชีวาและมีความสุขที่ได้อยู่ใกล้ชิดเธอ จนนำไปสู่การขอแต่งงาน
แต่เมื่อเขาได้ค่อยๆค้นพบความรู้สึกลึกซึ้งที่มีต่อเธออย่างที่ไม่เคยรู้สึกกับใคร
ความรู้สึกที่เรียกว่า 'ความรัก' วันเวลาแห่งชีวิตของเขากลับเหมือนแสงตะเกียงที่ค่อยๆมอดดับ
และรอคอยนับถอยหลังสู่ผืนดินที่เย็นเฉียบตลอดกาล.....
เรื่องนี้อ่านแล้วสุดจะบรรยาย ขอยกให้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วน้ำตาไหลพรากๆที่สุดแห่งปี
คืออ่านแล้วเศร้าซึ้งสะเทือนอารมณ์มากมาย อ่านแล้วต้องเรียกว่าเป็นเรื่องที่เปี่ยมไปด้วย
อารมณ์ความรู้สึกอย่างแรงกล้าทีเดียวค่ะ ซาบซึ้งสะเทือนใจไปกับความรักที่ลึกซึ้งกินใจ
ของพระ-นาง เป็นเรื่องที่อ่านแล้วสมกับการรอคอยมากๆ
เรื่องนี้เศร้าบาดใจมากเมื่อเปิดฉากมาด้วยการที่พระเอกซึ่งเป็นดยุคหนุ่มที่
เพียบพร้อมกลับพบว่าอาการป่วยของเขาที่เริ่มถี่ขึ้นเรื่อยๆในระยะหลัง
จะได้รับการวินิจฉัยจากหมอว่าหมดหนทางเยียวยาและเขากำลังจะตายในไม่กี่เดือนข้างหน้า
นั่นเป็นแรงผลักดันให้ชายหนุ่มผู้รับผิดชอบในหน้าที่มาตลอดชีวิต เกิดความคิดที่จะหลีกหนี
หายไปจากสังคมของเขาชั่วคราว ด้วยการเดินทางไปลำพังในสถานที่ที่จะไม่มีใครรู้ว่าแท้จริง
แล้วเขาคือใคร จนกระทั่งเขาได้พบกับหญิงสาวคนหนึ่งที่ทำให้เขาสะดุดตาสะดุดใจแต่แรกพบ
และพบในภายหลังว่าเธอและครอบครัวเป็นคณะละครเร่ ตัวเธอเป็นผู้จัดการและนักแสดงเมื่อยาม
ที่จำเป็นของคณะละครครอบครัวของเธอ และแล้วความอบอุ่น จิตใจงดงามของเธอก็ทำให้เขาหวั่นไหว
และกลายเป็นความรักโดยที่เขาไม่รู้ตัว
เรื่องนี้อ่านแล้วเห็นได้ชัดมากถึงแรงดึงดูดระหว่างพระ-นาง พระเอกเรียกได้ว่ารักนางเอก
ตั้งแต่แรกพบเพียงแต่เขาไม่อาจระบุได้ว่าความรู้สึกที่ว่านั้นเรียกว่าความรัก
เพราะตลอดชีวิตของเขาที่เติบโตมาเพื่อทำหน้าที่ดยุค ไม่เคยรู้จักคำนี้มาก่อนแม้แต่คนในครอบครัว
เขาได้รับการปลูกฝังให้ทำหน้าที่เลยเฉยชาต่อความรู้สึกเหล่านี้
แต่พอได้มาเจอนางเอกเขารู้สึกมีความสุขรู้สึกถึงการได้มี 'ชีวิตอย่างแท้จริง'
และเมื่อถึงเวลาที่เขาต้องเดินทางต่อไปอย่างเดียวดาย
เขากลับพบว่าไม่สามารถปล่อยมือจากนางเอกได้ นั่นนำไปสู่การแต่งงานระหว่างทั้งคู่และเป็นการ
แต่งงานที่ไม่น่าจะเป็นไปได้เพราะในสังคมที่สถานะเป็นเครื่องกำหนดความเป็นคน
ทั้งคู่สถานะต่างกันมากเกินไป เขาคือดยุคผู้ทรงอิทธิพล ร่ำรวยมหาศาล แต่เธอเป็นเพียงแค่นักแสดง
หญิงของคณะละครเร่ แต่เขาทนไมไ่ด้ที่ต้องแยกจากเธอและขอที่จะมีเธออยู่เคียงข้างตราบจนกว่า
วันสุดท้ายของชีวิต
เรื่องนี้เห็นได้ชัดมากว่าพระเอกรักนางเอกมากแค่ไหน แม้เขาจะไม่รู้ตัว แต่ด้วยความเอาใจใส่
ความห่วงใย เื้อื้ออาทร ปรารถนาจะคุ้มครองเธอจากคำครหาทั้งปวงแค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า
เขารักนางเอกมากแค่ไหน อ่านแล้วสะเทือนใจมากๆ ที่พระเอกเข้มแข็งและพยายามอดทน
กับอาการเจ็บป่วยและพยายามฝืนไม่แสดงออกให้นางเอกเป็นทุกข์ อ่านแล้วน้ำตาร่วงจริงๆค่ะ
ทุกครั้งที่อาการป่วยของพระเอกกำเริบ ยิ่งเขารู้ตัวว่ารักนางเอกก็ไม่ปรารถนาจะจากเธอไปแม้แต่น้อย
พยายามใช้ชีวิตให้คุ้มค่าที่ได้อยู่กับผู้หญิงที่เขารักที่สุดอย่างนางเอก อ่านแล้วสะเทือนใจมากมาย
ยิ่งการดำเนินเรื่องเป็นการนับถอยหลังชีวิตของพระเอกเรื่อยๆ อ่านแล้วปวดใจสุดๆ
เรื่องนี้ใช่ว่านางเอกไม่รู้อาการป่วยของพระเอก รู้ตั้งแต่ตอนพระเอกขอเธอแต่งงานด้วย
เธอรู้ว่าพระเอกกำลังจะตาย แต่เธอก็ยินยอมที่จะเอาหัวใจเข้าไปเสี่ยงกับความรักที่จะจบลง
ด้วยการพลัดพรากเช่นนี้ แต่ถึงเธอจะรู้เธอก็ยินดีเพราะรักและต้องการอยู่เคียงข้างพระเอก
แม้เธอจะไม่กล้าพูดออกไป เธอพยายามที่จะเข้มแข็งไม่ทำให้พระเอกรู้สึกเป็นทุกข์ยิ่งกว่า
เดิม มาแนวหน้าชื่นอกตรม อ่านแล้วน้ำตาร่วงมากๆค่ะื คือรู้สึกได้เลยว่านางเอกรักพระเอกมากๆ
ไม่แพ้ักันและอยู่เคียงข้างพระเอกตลอด
เรียกได้ว่าความรักของทั้งคู่เห็นได้ชัดมากๆ อ่านแล้วรู้สึกได้ถึงความรักที่ลึกซึ้งอบอุ่นอ่อนโยน
เป็นความรักที่เชื่อได้สนิทใจว่าไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในวันข้างหน้า แต่ความรู้สึกรักอย่างลึกซึ้ง
ที่ทั้งคู่มีต่อกันก็จะไม่มีวันลบเลือนไปจากใจของทั้งคู่ได้ อ่านแล้วเศร้ามากๆ สารภาพว่าอ่านไป
ซับน้ำตาไปเพราะอินจัด เป็นเรื่องที่ต้องใช้คำว่า 'งดงาม' เพราะงดงามทั้งพล้อตเรื่อง
คาแรคเตอร์ของตัวละครแถมยังเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกที่สวยงามละเมียดละไมมากๆ
อ่านแล้วฉากน่ารักหวานๆ มีให้เห็นตั้งแต่พระ-นางที่เพิ่งรู้จักกัน และพระเอกที่ปิดบังสถานะของตน
ได้เป็นนักแสดงจำเป็นในคณะละครของนางเอก และเขากับนางเอกได้แสดงเป็นราชาและราชินีคู่กัน
เรื่องได้ว่าความรู้สึกที่ทั้งคู่มีต่อกันเป็นของจริงเวลาแสดงละครด้วยกันเลยสื่อให้
เห็นได้อย่างชัดเจนมากๆ
อ่านแล้วทั้งยิ้มทั้งเขินเพราะเวลาพระเอกอยู่กับนางเอกเขาคือชายหนุ่มที่ใช้ชีวิต
เรียบง่าย อบอุ่นและมีชีวิตชีวา
แต่ถึงจะมีฉากมีความสุขแต่ก็เป็นความสุขปนเศร้า เพราะเป็นการนับถอยหลังชีวิตของพระเอกเรื่อยๆ
แต่ท่ามกลางชีวิตที่ใกล้ริบหรี่ ยังมีคุณค่าและมีความหมายเมื่อเขาได้พบหญิงสาวผู้เปรียบเสมือน
กุหลาบงามดอกหนึ่งผู้สมบูรณ์แบบที่สุดสำหรับเขา...
ตั้งแต่อ่านนิยายแปลมา ไม่เคยเจอเรื่องไหนที่ทำให้ร้องไห้ น้ำตาร่วงเผาะๆได้มากขนาดนี้
เพราะเรื่องนี้สวยงามมากจริงค่ะ ยกให้เป็นนิยายที่ซาบซึ้งกินใจมากที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาเลย
และแน่นอนว่าเป็นเรื่องโปรดในใจตลอดกาลอีกหนึ่งเรื่อง
ปล.ถึงพล็อตจะเศร้าสะเทือนใจขนาดนี้ แต่บอกไว้ก่อนเลยค่ะว่าจบแบบแฮปปี้ค่ะ จบแบบสวยงาม
และมีความสุขที่สุดเหมือนฝันทีเดียว อ่านแล้วดีใจมากๆที่เรื่องราวลงเอยอย่างสมหวัง
แนะนำให้อ่านมากๆค่ะสำหรับคอนิยายแนวซาบซึ้งกินใจ รับรองว่าไม่ผิดหวัง
ราคาปกติ
384 บาท
ราคา
304 บาท
เพิ่มลงในตะกร้า