พ่ายเพลิงคิมหันต์
เมื่อบุพเพอาละวาดให้สาวโสดสดซิงอย่างฉัตริมา มาบรรจบกับหนุ่มหล่อที่เต็มเปี่ยมด้วยพลังดึงดูด ปลงใจก่อสัมพันธ์ชั่วคืนแบบวันไนต์สแตนด์ คืนเสน่หาจบลง ทว่าไฟรักของทั้งคู่กลับยังไม่จบสิ้น...
“จูบของผมได้เรื่องไหม”
“หา!” สาวอ่อนประสบการณ์ตาโต
พวงแก้มผ่องแดงแช้ดยังกับลูกเชอร์รี่ น่ารักน่าจูบ คลินท์เบี่ยงหน้าลงหอมแก้มสูดลมความหอมของเนื้อสาวเข้าปอดลึกๆ
“ว่าไง ผมจะได้รู้ไงว่าได้ตั๋วไปต่อหรือเปล่า”
“สงสัยคุณยังแยกไม่ออก งั้นผมคงต้องจูบอีกที”
“คลินท์”
ทำไมเขาเป็นคนแบบนี้ ปากที่อ้าประท้วงถูกประกบอีกครั้ง ลิ้นร้อนแทรกเข้าสู่ภายในซอกซอนไซ้จนร่างบางสะท้าน
ฉัตริมากำมือแน่น วางนิ่งอยู่กับอกกว้าง ยามนี้ไม่มีแม้แต่สมองจะคิดถึงเรื่องผลักเขาออก รับรู้ถึงปากอุ่นอ้าวที่ดูดดื่มกลืนกินอย่างเรียกร้อง รับรู้ถึงมือที่เคลื่อนไล้ไปตามร่างกาย รับรู้ถึงกายของบุรุษเพศที่แน่นขนัดอุดมด้วยมัดกล้ามแกร่งสวยที่เบียดคลึงเข้าแนบชิด
วายร้ายจำนนรัก
“ปล่อย!”
“โกรธอะไร หรือเมื่อกี้ทำไม่ถูกใจ”
“อ๊าย เด็กบ้า! ถูกใจบ้าบออะไรกัน นายย่ำยีฉัน แล้วจะเอาอะไรอีก” เสียงหวานสั่นร้องแหวเบาๆ ความอับอายฉาบไปทั่วใบหน้าจนร้อนผ่าว ส่วนหนึ่งเพราะ หญิงสาวรู้ตัวดีว่า ในการย่ำยีที่พูดถึง มันมีความสมยอมรวมอยู่ด้วยค่อนข้างมาก
เรียวปากได้รูปยกยิ้ม ตาคมกริบกล้าหรี่สบตาวาวๆ ด้วยประกายพราวขำ...
“คำก็เด็กสองคำก็เด็ก แล้วไม่ใช่เด็กคนนี้รึไง ที่ทำให้เจ้ร้องร่ำคร่ำครวญอยู่ใต้อกไม่กี่นาทีก่อน อย่างว่าอ่ะนะ คนแก่ก็งี้ ขี้หลงขี้ลืม สงสัยต้องย้ำเตือนความจำกันใหม่อีกสักรอบสองรอบ”
“อ๊ายยย นายปณิธาน!”
ราคา
300 บาท